สำหรับคนที่กำลังอยากจะผลิตสินค้าตีตราแบรนด์ของตัวเอง เป็นเรื่องที่ท้าทายและต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างสินค้าที่มีคุณภาพและมีความแตกต่างจากสินค้าของคู่แข่ง การเริ่มต้นด้วยการวางแผนการผลิตและการตลาดให้เหมาะสม เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับลูกค้า รวมถึงการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพและความเหมาะสมกับการผลิตก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอาง ของกิน ของใช้ สินค้าแฟชั่นหรือเสื้อผ้า หลายคนคงอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ โรงงาน OEM , ODM และ OBM กันมาบ้างแล้ว ซึ่งโรงงานเหล่านี้ล้วนเป็นที่รับผลิตสินค้าทั้งสิ้น แต่ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร? ทำไมถึงใช้ชื่อเรียกไม่เหมือนกัน? แล้วต้องเป็นโรงงานประเภทไหนถึงจะเหมาะกับธุรกิจของเรา? มาหาคำตอบกันเลย
ข้อแตกต่างของโรงงาน OEM, ODM และ OBM
1. OEM (Original Equipment Manufacturer)
ประเภทโรงงาน : โรงงานรับจ้างผลิตสินค้า
การออกแบบสินค้า : ลูกค้าออกแบบ
การตรวจสอบคุณภาพ : ไม่สามารถตรวจสอบคุณภาพได้ทุกขั้นตอน
ต้นทุนสินค้า : ต้นทุนปานกลาง
ทุนจัดตั้งโรงงาน : ไม่ต้องเสียเงินลงทุนในการจัดตั้งโรงงาน
OEM คือ โรงงานที่เน้นผลิตสินค้าให้กับผู้ที่ต้องการตีตราแบรนด์เป็นของตัวเองหรือจะไม่ตีตราแบรนด์ก็ได้ โดยจะผลิตสินค้าตามแบบและความต้องการของลูกค้าซึ่งจะดูแลตั้งแต่กระบวนการผลิตครอบคลุมไปถึงเครื่องจักรต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับผลิต เหมาะสำหรับลูกค้าที่ไม่มีโรงงานเป็นของตัวเองและต้องการผลิตในจำนวนน้อย ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องจักร โรงงานประเภทนี้จะไม่เน้นในการสร้างแบรนด์ให้กับตัวเอง แต่จะเน้นสร้างแบรนด์ให้กับลูกค้ามากกว่า
2. ODM (Original Design Manufacturer)
ประเภทโรงงาน : โรงงานรับจ้างผลิตและออกแบบสินค้า
การออกแบบสินค้า : โรงงานหรือลูกค้าออกแบบ
การตรวจสอบคุณภาพ : ไม่สามารถตรวจสอบคุณภาพได้อย่างละเอียด
ต้นทุนสินค้า : ต้นทุนสูง (โดยเฉพาะสินค้าที่ผูกขาดกับแบรนด์)
ทุนจัดตั้งโรงงาน : ไม่ต้องเสียเงินลงทุนในการจัดตั้งโรงงาน
ODM คือ โรงงานที่โดดเด่นทางด้านการออกแบบสินค้า โดยจะเน้นไปที่การพัฒนารูปแบบให้ออกมาแตกต่างและสามารถสร้างมูลค่าได้ด้วยดีไซน์ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการสินค้าแบบ Exclusive Design หรือแบบไม่ซ้ำใคร เพราะโรงงานจะออกแบบสินค้ามาเพื่อผลิตให้กับลูกค้ารายเดียวโดยเฉพาะ
3. OBM (Original Brand Manufacturer)
ประเภทโรงงาน : โรงงานเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ผลิตเอง
การออกแบบสินค้า : บริษัทออกแบบสินค้าด้วยตัวเองทุกขั้นตอน
การตรวจสอบคุณภาพ : ตรวจสอบคุณภาพได้ทุกขั้นตอน
ต้นทุนสินค้า : ต้นทุนต่ำ (ควบคุมต้นทุนเองได้)
ทุนจัดตั้งโรงงาน : ทุนในการจัดตั้งโรงงานสูง
OBM (Original Brand Manufacturer) คือ โรงงานที่มีการผลิตสินค้าในนามแบรนด์ของตัวเองออกมาจำหน่าย โดยโรงงานนั้นต้องเป็นโรงงานที่มีกำลังผลิตสูงและพัฒนาได้อย่างเต็มที่เพราะจะเน้นไปที่การขายในปริมาณมากให้สำหรับลูกค้าที่ต้องการรับไปขายต่อ หากเป็นแบรนด์ที่มีฐานลูกค้าค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว การมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองก็จะทำให้ลดต้นทุนการผลิตได้เยอะเลยทีเดียว
การเลือกทำแบรนด์กับโรงงาน OEM, ODM หรือ OBM เป็นการตัดสินใจที่สำคัญในการพัฒนาธุรกิจและตลาดสินค้า ดังนั้น จึงควรพิจารณาด้วยความละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจใด ๆ นอกจากนี้ ควรพิจารณาถึงความต้องการของตลาด ว่าตลาดที่เราจะเข้ามาแข่งขันนั้น มีความต้องการสินค้าแบบไหน ควรเลือกโรงงานที่สามารถผลิตสินค้าที่ตรงตามความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี แล้วถ้า อยากเป็นเจ้าของแบรนด์เริ่มอย่างไร?
ข้อดีและข้อเสียของโรงงาน OEM, ODM และ OBM
ประเภทโรงงาน | ข้อดี | ข้อเสีย |
OEM |
|
|
ODM |
|
|
OBM |
|
|
โรงงาน OEM, ODM และ OBM ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน OEM มักจะมีความสามารถในการผลิตสินค้าอย่างมาก และมักมีราคาที่ต่ำกว่าสินค้าที่ผลิตโดย ODM หรือ OBM แต่ก็มีข้อจำกัดที่เกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพและการออกแบบสินค้า
ในทางกลับกัน โรงงาน ODM มักจะมีความสามารถในการออกแบบสินค้าและวางแผนการผลิตที่ดีกว่า และมักมีความยืดหยุ่นในการผลิตโดยสามารถปรับปรุงสินค้าให้เหมาะสมกับตลาดได้ โรงงาน OBM มักมีคุณภาพสินค้าที่ดีและมักมีราคาที่สูงกว่า OEM และ ODM แต่มักมีความสามารถในการตลาด และการควบคุมการผลิตที่ดีกว่า นอกจากข้อดีข้อเสียของแต่ละโรงงานแล้ว อย่าลืมศึกษา ข้อดีข้อเสียของการเป็นเจ้าของธุรกิจ ก่อนทำแบรนด์เองด้วย
ดังนั้น เมื่อพิจารณาเลือกโรงงานสำหรับการผลิตสินค้าแบรนด์ของตัวเอง ควรตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกโรงงานที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าที่ต้องการ รวมถึงความสามารถในการรับประกันคุณภาพและราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณ เพื่อให้ได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับตลาด
อ้างอิง
- OEM , ODM และ OBM คืออะไร? ทำไมคนทำแบรนด์ถึงต้องรู้จัก. www.revomed.co.th/knowledge/oemคือ/
- Difference Between ODM, OEM and OBM. https://blog.projectmaterials.com/project-procurement/difference-obm-odm-oem-production/