การผลิตสินค้าที่ดีต้องอาศัยการวิจัยตลอดเวลา เพื่อหาว่าคนสนใจอะไร และกำลังต้องการอะไร myh’ยังต้องมีการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับจากตลาด นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาเรื่องการจัดการการผลิตและการจัดการโลจิสติกส์ เพื่อให้สินค้าที่ผลิตออกมามีคุณภาพ และมีราคาที่เหมาะสมกับตลาด เพื่อให้สามารถขายได้มากขึ้น แต่ก่อนที่จะ ผลิตอะไรขายดี มารู้จักประเภทสินค้าต่าง ๆ ที่โรงงานมักจะรับผลิตกัน
ผลิตอะไรขายดี? มารู้จักประเภทสินค้าต่าง ๆ ที่โรงงาน OEM รับจ้างผลิต
ผลิตอะไรขายดี? จ้างผลิตสินค้าอะไรดี? คำถามโลกแตกสำหรับเหล่าเจ้าของแบรนด์ ผู้ประกอบการณ์หน้าใหม่ ประสบการณ์ยังน้อย ไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี แต่หากใครมีประสบการณ์ทางธุรกิจอยู่แล้ว เช่น เคยทำงานเป็นลูกจ้าบริษัทมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าที่จะขาย หรือทางบ้านขายสินค้านี้มาก่อน จะออกมาต่อยอดสินค้าเพิ่มเติม ก็จะสามารถจับทางได้ไม่ยากว่าจะผลิตอะไรขายบ้าง โดยการติดต่อไปโรงงานรับผลิตสินค้า หรือ OEM หากใครยังนึกไม่ออกว่าจะขายสินค้าชนิดใด? ผลิตอะไรขายดี? มารู้จักประเภทสินค้าต่าง ๆ ที่โรงงาน OEM รับจ้างผลิต สามารถจำแนกประเภทคร่าว ๆ เป็นหมวดหมู่ได้ดังนี้
- อาหารและเครื่องดื่ม เช่น อาหารเสริม อาหารทั่ว ๆ ไป ชา กาแฟ น้ำดื่ม
- ผลิตภัณฑ์ความงาม เช่น ครีม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สปา สบู่ ยาสระผม โฟมล้างหน้า โรลออน หรือสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ รับผลิต.com เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
- ยาแผนโบราณและสมุนไพร เช่น ยาดม ยาหม่อง ยาสมุนไพร น้ำมันนวดตัว
- สินค้าเพื่อการเกษตร เช่น ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี
- สินค้าที่ใช้ทั่ว ๆ ไป เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ร่ม
- งาน Handmade เช่น งานไม้ต่าง ๆ
หากคุณจะผลิตสินค้า เพื่อจำหน่ายในตลาดและเข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้บริโภคทั่วไป เช่น อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ต้องมีรายละเอียดทางการบรรจุภัณฑ์ที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลสินค้า และทราบวิธีการใช้งานหรือบริโภคได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบและระบุข้อมูลเกี่ยวกับสารอาหาร ส่วนผสม วัตถุดิบ วันหมดอายุ และการรับรองคุณภาพของสินค้า อย่าง เครื่องหมาย อย. เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถทำการเลือกซื้อและบริโภคสินค้าให้เหมาะสมตามความต้องการได้
ทำอย่างไรให้สินค้าขายดี ดึงดูดผู้บริโภค
สิ่งที่จะดึงดูดผู้บริโภคให้หันมาใช้สินค้าของคุณ ทางเดียวก็คือ การสร้างความแตกต่างด้วยตัวสินค้าและการบริการ ตลอดจนความเข้าใจในผู้บริโภคอย่างแท้จริง จะทำให้สินค้าขายดี โดยเปลี่ยนตัวเองให้เป็น “ตัวเลือกที่ดีที่สุด” สำหรับลูกค้าทุกคน โดยมีหลักการดังนี้
1. สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นกับสินค้า
สิ่งที่เหมือนกัน ย่อมทำให้เกิดการแข่งขันตามมา ซึ่งถ้าสินค้าคุณเหมือนกับอีก 100 ร้านทั่วประเทศ นั่นหมายความว่าลูกค้าไม่จำเป็นต้องใช้บริการคุณก็ได้ แต่กลับกันถ้าสินค้าคุณมีความแตกต่าง และไม่ซ้ำใคร นั่นหมายความว่า เขาต้องใช้บริการแค่กับคุณคนเดียว เพราะแบบนี้เอง การพยายามหาจุดเด่นให้สินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมาโดยตลอด โดยเฉพาะกับโลกออนไลน์ที่เหล่าสินค้าต่าง ๆ สามารถถูกค้นหาและเปรียบเทียบราคาได้อย่างง่ายดาย การแตกต่างยิ่งจำเป็น หลายคนที่เพิ่งเริ่มทำแบรนด์เอง อาจมีความสงสัยว่า โรงงาน OEM, ODM และ OBM แตกต่างกันอย่างไร?
2. เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เล็กลงกว่าเดิม
การขายสินค้าแบบหว่านแหนั้น หมดยุคไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่คือ จะอยากได้อะไรก็ตามที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตน แสดงออกให้เห็นถึงความเป็นกลุ่มก้อนกับผู้คนในแวดวงที่ตัวเองอยู่ เช่น ถ้าคุณขายเสื้อยืดสีพื้นธรรมดา ๆ ก็อาจจะต้องเจอกับคู่แข่งอีกหมื่นคน แต่ถ้าคุณเจาะตลาดกลุ่มเป้าหมายให้เล็กลง จากเป็นใครก็ได้ ให้เหลือแค่คนที่ชื่นชอบวงร็อก คุณก็จะเจอกับคู่แข่งที่ขายเสื้อวงร็อกเพียงแค่ไม่กี่สิบ หรือร้อยคนเท่านั้น นั่นส่งผลให้ยอดขายและกำไรของคุณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
3. สร้างความแตกต่างระดับรายบุคคล
แล้วมันจะยิ่งเป็นการดีเข้าไปใหญ่ ถ้าธุรกิจคุณสามารถตอบสนองความต้องการได้แบบชนิดที่ว่ารายบุคคล สั่งทำ สั่งผลิตสินค้าตามที่ลูกค้าต้องการได้ เช่น ธุรกิจเสื้อยืดของคุณ คุณสามารถรับสกรีนเสื้อที่เป็นลายที่ลูกค้าต้องการได้ทันที โดยคิดราคาเท่ากัน ซึ่งมันจะดึงดูดทั้งลูกค้าที่เป็นแบบขาจร และขาประจำที่อยากให้คุณผลิตเป็น OEM ส่งให้เขาขายได้เลย เป็นการต่อยอดธุรกิจของคุณให้ไปไกลกว่าแค่การขายปลีก แต่สามารถทำขายส่งล็อตใหญ่ ๆ ให้ตัวแทนจำหน่ายที่ต้องการได้ด้วย
4. คุณภาพสินค้าต้องดีเสมอต้นเสมอปลาย
แต่กว่าจะไปถึงจุดที่มีผู้คนให้ความสนใจ และใช้บริการสินค้าคุณอย่างต่อเนื่องได้ ต้องเริ่มจากตัวสินค้าที่น่าสนใจ มีคุณภาพดี ใช้แล้วไม่ผิดหวัง ถึงจะเป็นการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนน่าใช้บริการต่อ นอกจากนี้หลังจากที่เริ่มมีผู้คนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากแล้ว สิ่งที่คุณห้ามทำเลยคือ การลดต้นทุนการผลิตลง หรือใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพด้อยกว่าเดิม ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มความเร็วให้กระบวนการผลิต หรือลดต้นทุนใด ๆ ก็ตาม เพราะสุดท้ายแล้วสินค้าที่แย่ลงในล็อตต่อ ๆ ไปจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนถูกหักหลัง และไม่อยากกลับมาใช้บริการกับคุณอีกเลย นึกภาพง่าย ๆ ก็เหมือนขนม หรือของกิน ที่แต่ก่อนเคยซื้อราคานี้แล้วได้เยอะ แต่หลังจากนั้นกลับไปซื้ออีกครั้งเหลือชิ้นนิดเดียว เป็นคุณก็คงไม่อยากกลับไปใช้บริการ
ในการทำให้ยอดขายสินค้าดีขึ้น มีกลยุทธ์มากมายที่สามารถนำมาใช้ได้ สิ่งแรกและสำคัญที่สุด สิ่งสำคัญคือต้องมีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ตรงกับความต้องการและความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย นอกจากนี้ เทคนิคทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพยังช่วยส่งเสริมผลิตภัณฑ์และสร้างความสนใจได้อีกด้วย ซึ่งอาจรวมถึงแคมเปญโซเชียลมีเดีย การโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย และการเป็นพันธมิตรกับอินฟลูเอนเซอร์
ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การบริการลูกค้า การให้การสนับสนุนที่เป็นเลิศและการจัดการกับข้อกังวลใด ๆ สามารถช่วยสร้างความภักดีและกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ สุดท้าย การพิจารณาเสนอโปรโมชันหรือส่วนลดเพื่อจูงใจการขายอาจคุ้มค่า ด้วยการใช้กลยุทธ์เหล่านี้ คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสให้สินค้าของคุณขายดีในตลาดได้
อ้างอิง
- โรงงานรับผลิตสินค้า คืออะไร สำคัญอย่างไร? https://smehow.net/archives/447
- 4 หนทางเอาตัวรอดสำหรับ SME ที่อยากมีชีวิตต่อไป. https://www.smartsme.co.th/content/215932